นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า “รัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันที นโยบายที่ 5 เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง สืบเนื่องจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายวราวุธ ศิลปอาชา) มีนโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) คือ แก้ปัญหาวิกฤติประชากร 5x5 ในมาตรการที่ 5 สร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัวไทย โดยสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) สังกัดกรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุน การพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเงินของประชาชน ในชุมชน ช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตทางการเงิน เป็นช่องทางในการเข้าถึงเงินทุนได้อย่างรวดเร็วและยุติธรรม เน้นการให้บริการที่โปร่งใสและเป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มาใช้บริการ ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากสังคมและผู้ใช้บริการมากว่า 70 ปี เป็นอันดับแรก เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน และการประกอบอาชีพมอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของ สธค. ประจำปีงบประมาณ 2568 ดังนี้
1. การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาบริหารจัดการปรับกระบวนการทำงานภายในและการให้บริการประชาชน
2. การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องกับความท้าทายใหม่ของโลกดิจิทัล
3. การพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้รองรับต่อการเปลี่ยนแปลง
4. การมีโครงการหรือมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้บริการของ สธค.ที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์ฉุกเฉิน
5. ให้คำปรึกษาแนะนำสวัสดิการของรัฐ
สธค. ตั้งเป้าที่จะพัฒนาองค์กรให้เป็นสถาบันการเงินที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล แต่ยังคงรักษาหัวใจสำคัญ คือ การเป็นที่พึ่งทางการเงินที่น่าเชื่อถือและเป็นธรรม นอกจากนี้เราตั้งใจที่จะสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ครบวงจร ไม่ใช่แค่การรับจำนำ แต่รวมถึงการให้คำปรึกษาทางการเงิน การวางแผน การออม และการพัฒนาทักษะทางการเงิน เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน นี่คือภารกิจสำคัญที่เราจะมุ่งมั่นทำต่อไป ในฐานะสถาบันการเงินเพื่อสังคม ที่พร้อมดูแลประชาชนทุกกลุ่ม จึงได้พัฒนาบริการออนไลน์เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการประเมินราคาทรัพย์จำนำออนไลน์ ส่งดอกเบี้ยออนไลน์ และการจำหน่ายทรัพย์หลุดจำนำและในปีนี้ซึ่งก้าวสู่ปีที่ 70 สธค. ได้เปิดให้บริการใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ได้แก่ ระบบผ่อนชำระเงินต้นออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องแบกรับภาระหนักในการจ่ายเงินก้อนใหญ่ครั้งเดียว สามารถทยอยผ่อนเงินต้นผ่านแอปพลิเคชันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้การวางแผนการเงินง่ายขึ้น และลดปริมาณทรัพย์หลุดจำนำ และอีกบริการหนึ่งที่ได้รับการตอบรับดีมากคือการรับเงินจำนำผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคาร ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องถือเงินสดจำนวนมาก ลดความเสี่ยงในการเดินทาง และสามารถนำเงินไปใช้ได้ทันทีผ่านการโอนอิเล็กทรอนิกส์
ทางด้าน นางสุพัสตรา จันทร์ศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ สายงานผลิตภัณฑ์และบริการ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การจัดงานมอบนโยบายในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานทุกท่านเข้าใจในบริบทที่สำคัญของ สธค. สร้างความเข้าใจร่วมกันในทิศทางองค์กรและเป้าหมายขององค์กรที่จะนำไปสู่ ในปี ๒๕๖๘ ที่กำลังจะมาถึงนั้น สธค. ได้วางแผนกลยุทธ์ที่มีความสอดคล้องกับการดำเนินงานตามแผนวิสาหกิจ สธค. ตามหลักเกณฑ์ SE-AM และสอดคล้องนโยบายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 ที่ผ่านมา สธค. ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ปี 2567 (ระดับดี) สาขาบริการภาครัฐ ประเภทขับเคลื่อนเห็นผล และ รางวัล รัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2566 “รางวัลความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อการพัฒนาดีเด่น” ตามแผนวิสาหกิจการกำหนดตำแหน่งทางยุทธศาสตร์องค์กร ระยะสั้น ปี 2568 สธค.มุ่งเน้นไปที่การยกระดับการให้บริการของโรงรับจำนำเพื่อสังคม โดยการสร้างความเข้มแข็งในการให้บริการ โดย สธค.มีการปรับปรุงกระบวนการให้บริการรับจำนำอย่างต่อเนื่อง อาทิ ระบบบริหารงานคุณภาพ ISO 9001 : 2015 ด้านการบริการรับจำนำ และ ได้รับมาตรฐานด้าน ISO 27001:2022 การจัดการความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสำหรับการให้บริการรับจำนำ การจำหน่ายทรัพย์หลุดจำนำ ที่จัดเก็บข้อมูล ณ ศูนย์ข้อมูลเครือข่าย (Data Center) และศูนย์ข้อมูลเครือข่ายสำรอง (DR Site) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในตำแหน่งยุทธศาสตร์ระยะยาว Social and Smart Pawnshop และซึ่งก็ตรงตามวิสัยทัศที่ว่า สธค. “เป็นโรงรับจำนำเพื่อสังคม บริการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยยึดหลักธรรมาภิบาล”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น