สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากช่วยเพิ่มเครือข่ายบริการให้ของไปรษณีย์ไทยให้ครอบคลุมการให้บริการประชาชนทั้งประเทศ ยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับร้านธงฟ้า ที่จะมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น มีช่องทางในการเพิ่มรายได้มากขึ้น และในส่วนของเกษตรกร ผู้ประกอบการ SMEs ร้านค้าออนไลน์ และประชาชนทั่วไป จะได้ประโยชน์ในการส่งสินค้าที่สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น เร็วขึ้น เพราะร้านธงฟ้าอยู่ใกล้บ้าน ลดข้อจำกัดในการเดินทางไปไปรษณีย์ไทย และยังสามารถเลือกเวลาส่งสินค้าได้ด้วย
“ไปรษณีย์ไทย เป็นกลไกสำคัญอย่างมากต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่ก้าวทันทุกการแข่งขัน คล่องตัว มีเครือข่าย ข้อมูล ระบบการให้บริการ และเทคโนโลยีที่รองรับความต้องการได้หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งความเชี่ยวชาญของบุรุษไปรษณีย์ ซึ่งความโดดเด่นเหล่านี้ จะช่วยสร้างโอกาสให้กับทุกคน และหนุนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโตได้แบบไร้รอยต่อ” นายประเสริฐกล่าว
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้วยการพัฒนาระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ และใช้กลไกนี้เป็นจุดเชื่อมต่อภาคส่วนต่าง ๆ ให้ได้รับประโยชน์ และสำหรับโมเดลการพัฒนาร้านธงฟ้า 20,000 แห่ง ให้เป็นจุดให้บริการงานไปรษณีย์ในลักษณะดรอปออฟในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ สังคม ชุมชนให้มีการเติบโตในหลากหลายมิติ ตั้งแต่ในส่วนของร้านธงฟ้าที่สามารถสร้างรายได้โดยไม่ต้องลงทุน และสามารถสร้างเครือข่ายกับธุรกิจต่าง ๆ ได้มากขึ้น ในส่วนของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่มีสัญญากับไปรษณีย์ไทยจะได้รับความสะดวกในการดรอปสิ่งของที่จุดให้บริการใกล้บ้าน ทำให้ดรอปง่าย สร้างรายได้ เครือข่ายครอบคลุมด้วยคุณภาพบริการตอบโจทย์ธุรกิจ
สำหรับจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ในระยะแรก จะเปิดเป็นจุดดรอปพัสดุ ผู้ฝากส่งเพียงเตรียมการฝากส่งล่วงหน้า ซึ่งผู้ให้บริการร้านธงฟ้าสแกนบาร์โค้ดหน้ากล่องผ่านแอปพลิเคชันเพื่อรับสิ่งของเข้าระบบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะเข้ามารับพัสดุไปดำเนินการเพื่อส่งต่อให้ผู้รับปลายทาง และระบบจะคำนวณรายได้ให้ร้านธงฟ้า โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนเมษายน 2567 ตามเวลาทำการของร้านธงฟ้าแต่ละแห่ง ส่วนระยะต่อไปจะเปิดให้บริการทั้งจุดรับพัสดุและเป็นจุดรอจ่ายพัสดุให้ผู้รับปลายทาง ทั้งนี้ จากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายรวมมากกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนร้านธงฟ้าเข้าร่วมโครงการ โดยสามารถสมัครได้ที่ เว็บไซต์ https://newthongfah.dit.go.th/ ของกรมการค้าภายใน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอคำแนะนำเบื้องต้นได้ที่ 02-8313791 (6 คู่สาย) ตั้งแต่เวลา 08.00–18.00 น. ของวันทำการ และเวลา 08.30–16.30 น. สำหรับวันเสาร์และวันอาทิตย์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น