นางอัฉรา เจริญสุข ผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของสถาบันมาตรวิทยาพร้อมที่จะสนับสนุนบุคลลากรและงบประมาณในการผลิตวัสดุอ้างอิงในการตรวจสอบ รวมไปถึงจัดโปรแกรมทดสอบความชำนาญของห้องปฎิบัติการ จัดอบรมบุคลลากรในโครงการ และพัฒนาวัสดุอ้างอิง สารมาตรฐาน สำหรับการวัดรายการที่จำเป็น เพื่อให้ผลการวัดผลนั้นออกมามีประสิทธิภาพที่สุด และเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือนี้จะส่งผลดีและยกระดับแอลกอฮอล์ที่ผลิตในประเทศ ได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ”
ด้าน นายสมควร จารุสมบัติ รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิต รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การสุรา กล่าวว่า “องค์การสุราฯ มีความยินดี และพร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ความร่วมมือกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ในการพัฒนาแอลกอฮอล์บริสุทธิ์คุณภาพสูงระดับ CRM ซึ่งในปัจจุบันแอลกอฮอล์ที่ใช้เป็น CRM ต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้จึงจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างมาก ในการลดต้นทุนการนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ควบคู่กับการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต”
สำหรับพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ของโครงการระบบมาตรวิทยาเพื่อสนับสนุนการตรวจสอบคุณภาพแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์จากแอลกอฮอล์ จัดขึ้นในวันที่ 25 ธันวาคม 2563 เวลา ณ ห้องประชุม 206 อาคารมาตรธำรง สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ โดยมี นางอัจฉรา เจริญสุข ผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายสมควร จารุสมบัติ รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิต รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การสุรา องค์การสุรา กรมสรรพสามิต เป็นผู้ลงนามในสัญญาความร่วมมือ
ท้ายสุดทั้งสองท่านเผยว่า สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) มีพันธกิจสำคัญคือการพัฒนามาตรฐานการวัดแห่งชาติให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และถ่ายทอดความถูกต้องของการวัดต่างๆ ในประเทศ รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านมาตรวิทยาแก่สังคมไทย เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของมาตรวิทยา อีกทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ การคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ด้าน องค์การสุรา มีพันธกิจสำคัญ พัฒนากระบวนการผลิตและคุณภาพผลิตภัณฑ์เอทิลแอลกอฮอลล์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, ปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องรวมถึงส่งมอลผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าเข้าถึงได้ เข้าถึงง่าย, สร้างเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อเพิ่มคุณค่าเชิงสังคมอย่างยั่งยืน ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแอลกอฮอลล์ที่ถูกต้องเป็นรายเดียว ใช้ประกอบยาและเวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อาหารและเครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์และอื่นๆ
ความร่วมมือครั้งนี้ เหมาะสมกับปัจจุบัน ในขณะที่กำลังมีสถานการณ์การระบาดรอบใหม่ โควิด19 เพราะแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เอาไปทำเหล้าอย่างเดียว แต่แอลกอฮอล์เกรดที่ดีที่สุดจะใช้ในการแพทย์ เป็นสารตั้งต้นการผลิตยา ฯลฯ ปัจจุบันยังต้องนำเข้า ความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มกระบวนการตรวจสอบแอลกอฮอล์ ยืนยันมาตรฐานสากล ได้ประโยชน์สูงสุดทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น