วิกฤติโควิด-19 สร้างโอกาส เปลี่ยนละครเวทีจากออฟไลน์ เป็นละครเวทีออนไลน์ ผู้ชมดูอยู่บ้านผ่าน Zoom และ FB live สนุกเหมือนดูอยู่หน้าเวที และยังส่งเสริมความรู้ลูกหลานผ่านละครที่ดูด้วยการทำกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัว
แม้ช่วงไวรัสโควิด-19 หลายอย่างทุกหยุดชะงัก เพราะต้องพักเก็บตัวอยู่บ้าน แต่เมื่อถึงเวลาต้องเดินหน้ากันต่อ มูลนิธิละครไทยและฟุตปริ้นส์สตูดิโอกลับใช้ช่วงวิกฤติสร้างโอกาสปรับตัวจากโลกการดูละครเวทีที่ขอบเวที มาเป็นดูละครเวทีผ่านโลกออนไลน์ อย่าง Zoom และ Facebook Live ภายใต้ชื่อ “ละครเพื่อการศึกษาออนไลน์ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางใจของครอบครัว” หนึ่งในโครงการพลเมืองไทยสู้ภัยวิกฤต ที่ สสส.ให้การสนับสนุน
“ครูเชอร์รี่” ญาณี เหล่าวิริยะรัตน์ เจ้าของโครงการ ผู้มีประสบการณ์เป็นครูสอนละครประยุกต์มากว่า 15 ปี และเจ้าของมูลนิธิละครไทย เล่าถึงการเปลี่ยนการแสดงละครเวทีจากออฟไลน์ มาเป็นออนไลน์ว่า วิกฤติของไวรัสโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของคนไทยต้องปรับเปลี่ยน จะปรับมากหรือน้อยแล้วแต่อาชีพและบุคคล
สำหรับการแสดงละครเวทีของตนเองและทีมนั้น ถือโอกาสช่วงนี้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่เลยมาแสดงละครเวทีผ่านออนไลน์ ไม่มีผู้คนมานั่งดูชิดชอบเวทีดู แต่เป็นการดูผ่าน Zoom และ Facebook Live ทุกคนสามารถดูได้จากทางบ้าน เข้ากับสถานการณ์ ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยให้เคยชิน และเว้นระยะห่างระกว่างกัน ลดความเสี่ยงจากโควิด-19
“เมื่อก่อนอาจจะเคยคิดว่า อยากทดลองทำละครเวทีออนไลน์ดูบ้าง แต่ก็คิดว่าปล่อยไว้ก่อน จนกระทั่งเกิดวิกฤติคนออกจากบ้านไม่ได้ จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องทำ ออนไลน์ อย่างจริงจัง เมื่อทราบว่า “โครงการพลเมืองไทยสู้ภัยโควิด” ของ สสส. เปิดให้คนกลุ่มเล็ก ๆ ได้แสดงความสามารถเพื่อช่วยส่งเสริมให้คนในสังคมมีความเข้มแข็งทางจิตใจ หรือ Resilience ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมไทยกำลังต้องการเป็นอย่างมากในขณะนี้” ครูเชอรี เล่า
จากประสบการณ์ที่ทำละครเวทีเด็กมามากกว่าสิบปี โดยมี “ครูมุก” ณัฐชยา จังไพโรจน์ นักจิตวิทยาเด็ก วัยรุ่นและครอบครัว อยู่ในทีมช่วยเสริมความเข้มแข็งของการทำละครเวทีเด็ก จึงได้เสนอโครงการละครเพื่อการศึกษาออนไลน์ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางใจของครอบครัว ซึ่งเป็นทางถนัดของตนเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อช่วยขับเคลื่อน Resilience
ละครเวทีออนไลน์ที่ครูเชอรี่และทีมเลือกทำคือ “ปีศาจที่มองไม่เห็นบุกป่าร้อยเอเคอร์” เป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวการ์ตูนยอดนิยมอย่าง วินนี่ เดอะ พูห์ ใช้ตัวละครหลักจากเรื่องนี้ แต่เนื้อเรื่องเปลี่ยนใหม่ โดยนำเสนอและสอดแทรกเนื้อหาให้คนดูเข้าใจถึงโควิด-19 โดยจำลองเหตุการณ์วิกฤติเกิดขึ้นในป่า แล้วดูปฏิกิริยาของสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้จะเป็นอย่างไร มีการแก้ไขสถานการณ์ หรือรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร
ตัวอย่างเช่น ในป่ามีหมูตายโดยไม่รู้สาเหตุ หลังจากนั้นอาหารของสัตว์หลายบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อมาทราบว่า ได้มีปีศาจร้ายที่มองไม่เห็นตัว เป็นผู้มาลักขโมยอาหารไป สัตว์ทุกตัวที่อาศัยอยู่ในป่าต่างตื่นตกใจ พากันหาวิธีกักตุนอาหารหรือหาทางป้องกัน จนมีการป่าวประกาศให้ทราบว่า ปีศาจร้ายจับความร้อนของผู้ที่อยู่ในบ้านได้ จึงเข้ามาลักขโมยอาหาร หากใครสวมหน้ากากผ้าไว้ ปีศาจจะจับความร้อนไม่ได้ บ้านนั้นก็จะปลอดภัยจากการเข้ามาลักขโมยอาหาร
หากต้องการป้องกันการจับสัญญาณความร้อนจากปีศาจได้ ตัวละครต้องกินเถาเย็นเจี๊ยบ ซึ่งเป็นพืชที่มีหน้าตาเหมือนกับขิง จะช่วยทำให้อุณภูมิร่างกายเย็น ปีศาจจับความร้อนไม่ได้ แต่เนื่องจากแย่งกันจนเถาเย็นเจี๊ยบหมด แล้วจะทำอย่างไรดี สัตว์ป่าก็ช่วยกันหาวิธีเพื่อแก้ปัญหา จึงไปปรึกษาลุงกระต่ายที่ชอบอดออม จึงมีเถาเย็นเจี๊ยบปลูกไว้ จึงเกิดการส่งต่อช่วยกันปลูกเถาเย็นเจี๊ยบและนำไปแจกจ่ายต่อสัตว์อื่นๆ ในที่นี้ต้องการสื่อให้เห็นถึงตู้แบ่งปันนั่นเอง
โดยช่วงจบตอนของการแสดงจะมีการทำกิจกรรมร่วมกัน ให้ครอบครัวที่ร่วมชมได้ทำการบ้าน เด็ก ๆ ได้ตอบคำถาม เพื่อเป็นประเมินความเข้าใจในแต่ละช่วง และก็เริ่มแสดงตอนใหม่ และทำกิจกรรมร่วมกันเช่นนี้ จนครบรอบการแสดงภายในเวลา 2 ชั่วโมงที่การแสดงผ่านออนไลน์
ครูเชอร์รี่ เล่าเพิ่มอีกว่า เนื่องจากเป็นละครเพื่อการศึกษาจึงต้องทำเป็น 2 ก้อน คือ ก้อนละคร กับ ก้อนที่ทำกิจกรรมจากละคร การสร้างละครก็เอาคนที่ทำละครโทรทัศน์ ทำหนังเข้ามช่วยกัน ต้องเปลี่ยนขนาดภาพเหมือนการทำหนัง แต่ยังคงมีความเป็นเวทีไว้ด้วยการแสดง มีสีสัน มีคอสตูม มีนักแสดงเล่นจริงอยู่บนฉากหลังที่เป็นการ์ตูนวาด ที่มาจากการนำละครที่ถ่ายทำแล้ว มาใส่เทคนิค ในช่วงตัดต่อ ซึ่งยอมรับว่า ยาก เพราะไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน แต่เป็นความท้าทาย ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ขึ้นมา
“การทำงานชิ้นนี้คือ หวังให้ทุกคนปรับตัวและใช้ชีวิต new normal ได้ราบรื่น มีความสุขตามอัตภาพ ได้มองเห็นโอกาส หรือช่องทางใหม่ ๆ คืออยากให้เราค่อย ๆ ปรับตัวให้ได้และจับมือเพื่อนหรือชุมชนเดินไปด้วยกัน” ครูเชอร์รี่กล่าวในตอนท้าย
ผู้ที่สนใจติดตามชมละครเวทีออนไลน์ เรื่อง “ปีศาจที่มองไม่เห็นบุกป่าร้อยเอเคอร์” ได้ทุกวันเสาร์และ อาทิตย์ เวลา 14.00น.-16.00น. ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.63-14 มิ.ย.63 จำนวน 10 รอบ ผ่านช่องทาง Zoom และ Facebook Live ในเพจ CherryLala Learning Center หรือ คลิ๊กผ่านลิงค์นี้ https://lin.ee/dWhP8Qv เพื่อสมัครก่อนเข้าชม
แม้ช่วงไวรัสโควิด-19 หลายอย่างทุกหยุดชะงัก เพราะต้องพักเก็บตัวอยู่บ้าน แต่เมื่อถึงเวลาต้องเดินหน้ากันต่อ มูลนิธิละครไทยและฟุตปริ้นส์สตูดิโอกลับใช้ช่วงวิกฤติสร้างโอกาสปรับตัวจากโลกการดูละครเวทีที่ขอบเวที มาเป็นดูละครเวทีผ่านโลกออนไลน์ อย่าง Zoom และ Facebook Live ภายใต้ชื่อ “ละครเพื่อการศึกษาออนไลน์ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางใจของครอบครัว” หนึ่งในโครงการพลเมืองไทยสู้ภัยวิกฤต ที่ สสส.ให้การสนับสนุน
“ครูเชอร์รี่” ญาณี เหล่าวิริยะรัตน์ เจ้าของโครงการ ผู้มีประสบการณ์เป็นครูสอนละครประยุกต์มากว่า 15 ปี และเจ้าของมูลนิธิละครไทย เล่าถึงการเปลี่ยนการแสดงละครเวทีจากออฟไลน์ มาเป็นออนไลน์ว่า วิกฤติของไวรัสโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของคนไทยต้องปรับเปลี่ยน จะปรับมากหรือน้อยแล้วแต่อาชีพและบุคคล
สำหรับการแสดงละครเวทีของตนเองและทีมนั้น ถือโอกาสช่วงนี้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่เลยมาแสดงละครเวทีผ่านออนไลน์ ไม่มีผู้คนมานั่งดูชิดชอบเวทีดู แต่เป็นการดูผ่าน Zoom และ Facebook Live ทุกคนสามารถดูได้จากทางบ้าน เข้ากับสถานการณ์ ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยให้เคยชิน และเว้นระยะห่างระกว่างกัน ลดความเสี่ยงจากโควิด-19
“เมื่อก่อนอาจจะเคยคิดว่า อยากทดลองทำละครเวทีออนไลน์ดูบ้าง แต่ก็คิดว่าปล่อยไว้ก่อน จนกระทั่งเกิดวิกฤติคนออกจากบ้านไม่ได้ จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องทำ ออนไลน์ อย่างจริงจัง เมื่อทราบว่า “โครงการพลเมืองไทยสู้ภัยโควิด” ของ สสส. เปิดให้คนกลุ่มเล็ก ๆ ได้แสดงความสามารถเพื่อช่วยส่งเสริมให้คนในสังคมมีความเข้มแข็งทางจิตใจ หรือ Resilience ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมไทยกำลังต้องการเป็นอย่างมากในขณะนี้” ครูเชอรี เล่า
จากประสบการณ์ที่ทำละครเวทีเด็กมามากกว่าสิบปี โดยมี “ครูมุก” ณัฐชยา จังไพโรจน์ นักจิตวิทยาเด็ก วัยรุ่นและครอบครัว อยู่ในทีมช่วยเสริมความเข้มแข็งของการทำละครเวทีเด็ก จึงได้เสนอโครงการละครเพื่อการศึกษาออนไลน์ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางใจของครอบครัว ซึ่งเป็นทางถนัดของตนเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อช่วยขับเคลื่อน Resilience
ละครเวทีออนไลน์ที่ครูเชอรี่และทีมเลือกทำคือ “ปีศาจที่มองไม่เห็นบุกป่าร้อยเอเคอร์” เป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวการ์ตูนยอดนิยมอย่าง วินนี่ เดอะ พูห์ ใช้ตัวละครหลักจากเรื่องนี้ แต่เนื้อเรื่องเปลี่ยนใหม่ โดยนำเสนอและสอดแทรกเนื้อหาให้คนดูเข้าใจถึงโควิด-19 โดยจำลองเหตุการณ์วิกฤติเกิดขึ้นในป่า แล้วดูปฏิกิริยาของสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้จะเป็นอย่างไร มีการแก้ไขสถานการณ์ หรือรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร
ตัวอย่างเช่น ในป่ามีหมูตายโดยไม่รู้สาเหตุ หลังจากนั้นอาหารของสัตว์หลายบ้านหายไปอย่างไร้ร่องรอย ต่อมาทราบว่า ได้มีปีศาจร้ายที่มองไม่เห็นตัว เป็นผู้มาลักขโมยอาหารไป สัตว์ทุกตัวที่อาศัยอยู่ในป่าต่างตื่นตกใจ พากันหาวิธีกักตุนอาหารหรือหาทางป้องกัน จนมีการป่าวประกาศให้ทราบว่า ปีศาจร้ายจับความร้อนของผู้ที่อยู่ในบ้านได้ จึงเข้ามาลักขโมยอาหาร หากใครสวมหน้ากากผ้าไว้ ปีศาจจะจับความร้อนไม่ได้ บ้านนั้นก็จะปลอดภัยจากการเข้ามาลักขโมยอาหาร
หากต้องการป้องกันการจับสัญญาณความร้อนจากปีศาจได้ ตัวละครต้องกินเถาเย็นเจี๊ยบ ซึ่งเป็นพืชที่มีหน้าตาเหมือนกับขิง จะช่วยทำให้อุณภูมิร่างกายเย็น ปีศาจจับความร้อนไม่ได้ แต่เนื่องจากแย่งกันจนเถาเย็นเจี๊ยบหมด แล้วจะทำอย่างไรดี สัตว์ป่าก็ช่วยกันหาวิธีเพื่อแก้ปัญหา จึงไปปรึกษาลุงกระต่ายที่ชอบอดออม จึงมีเถาเย็นเจี๊ยบปลูกไว้ จึงเกิดการส่งต่อช่วยกันปลูกเถาเย็นเจี๊ยบและนำไปแจกจ่ายต่อสัตว์อื่นๆ ในที่นี้ต้องการสื่อให้เห็นถึงตู้แบ่งปันนั่นเอง
โดยช่วงจบตอนของการแสดงจะมีการทำกิจกรรมร่วมกัน ให้ครอบครัวที่ร่วมชมได้ทำการบ้าน เด็ก ๆ ได้ตอบคำถาม เพื่อเป็นประเมินความเข้าใจในแต่ละช่วง และก็เริ่มแสดงตอนใหม่ และทำกิจกรรมร่วมกันเช่นนี้ จนครบรอบการแสดงภายในเวลา 2 ชั่วโมงที่การแสดงผ่านออนไลน์
ครูเชอร์รี่ เล่าเพิ่มอีกว่า เนื่องจากเป็นละครเพื่อการศึกษาจึงต้องทำเป็น 2 ก้อน คือ ก้อนละคร กับ ก้อนที่ทำกิจกรรมจากละคร การสร้างละครก็เอาคนที่ทำละครโทรทัศน์ ทำหนังเข้ามช่วยกัน ต้องเปลี่ยนขนาดภาพเหมือนการทำหนัง แต่ยังคงมีความเป็นเวทีไว้ด้วยการแสดง มีสีสัน มีคอสตูม มีนักแสดงเล่นจริงอยู่บนฉากหลังที่เป็นการ์ตูนวาด ที่มาจากการนำละครที่ถ่ายทำแล้ว มาใส่เทคนิค ในช่วงตัดต่อ ซึ่งยอมรับว่า ยาก เพราะไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน แต่เป็นความท้าทาย ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ขึ้นมา
“การทำงานชิ้นนี้คือ หวังให้ทุกคนปรับตัวและใช้ชีวิต new normal ได้ราบรื่น มีความสุขตามอัตภาพ ได้มองเห็นโอกาส หรือช่องทางใหม่ ๆ คืออยากให้เราค่อย ๆ ปรับตัวให้ได้และจับมือเพื่อนหรือชุมชนเดินไปด้วยกัน” ครูเชอร์รี่กล่าวในตอนท้าย
ผู้ที่สนใจติดตามชมละครเวทีออนไลน์ เรื่อง “ปีศาจที่มองไม่เห็นบุกป่าร้อยเอเคอร์” ได้ทุกวันเสาร์และ อาทิตย์ เวลา 14.00น.-16.00น. ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.63-14 มิ.ย.63 จำนวน 10 รอบ ผ่านช่องทาง Zoom และ Facebook Live ในเพจ CherryLala Learning Center หรือ คลิ๊กผ่านลิงค์นี้ https://lin.ee/dWhP8Qv เพื่อสมัครก่อนเข้าชม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น