ถ้าเกิดถามว่าจะสามมารถนำพาเข้าสู่ร่างกายได้ไหม ในสิ่งแวดล้อมเท้าไป มีโอกาสตรงนี้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย ลองคิดดูนะครับ ถนนในเมืองในไทย อุณหภูมิเท่าไร เกิดมีเชื้อไวรัสพวกนี้ตกอยู่ถึงพื้น เชื้อจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะฉนั้นโอกาสที่จะมาสัมผัสรงเท้าแล้วนำมาพามาสู่การติดเชื้อ มีไม่มากครับ แต่ถ้าเกิดเป็นการทำงานอยู่ในห้องแอร์ ซึ่งมีอุณหภูมิที่พอเหมาะ ความชื้นมีไม่มากตรงนั้น อาจจะก่อให้เกิดปัญหา เพราะเกิดทำงานอยู่ในห้องแอร์มีคนไข้แล้วเสมหะ หล่นอยู่ที่พื้น เชื้อโรคหล่าวอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่ร้อนจนเกินไปนั้น มันก็จะสามารถอยู่ตรงนี้ได้นาน แต่ถ้าอกไปตามพื้นถนน ตามตลาดอะไรต่างๆ มันก็จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะพื้นผิวเมืองไทย และอุณหภูมิที่กระทบลงไป จะ 40 องศาอยู่แล้วนะครับ ยิ่งถ้าเป็นอุณหภูมิตามท้องถนน คงจะสูงมากเชื้อไวรัส คงอยู่ได้ไม่นาน
แนะนำวิธีการป้องกันตัวเองดีกว่าครับ
ปัจจัยหลักๆ หลายคนคงทราบกันอยู่บ้างแล้ว นั้นก็คื กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อันนี้เป็นสูตรของการป้งกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย และก็การใส่หน้านกากอนามัย ก็จะเป็นหนทางอย่างหนึ่ง ที่ป้องตัวเองให้เชื้ออกไปสู่ภายนอก ขณะเดียวกันก็จะมีการป้องกัน จากภายนอกมาสู่เรา ผ่านการทำ
Social distancing ระยะห่างของการอยู่ร่วมกัน พูดคุยกันก็ให้ในช่วงระยะห่าง 3 เมตร หลายๆ อย่างที่เป็นมาตรการของรัฐ ก็คือ อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ หากปฏิบัติตามแบบนี้ก็ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ ในขณะเดียวกันความแข็งแรงของร่างกาย มีความสำคัญมากๆ มีทั้งการพักผ่อน ออกกำลังกาย การทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ ที่สารต่อต้าน อนุมูลอิสระ มีที่ช่วยทำให้เรามี ภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้นมา ต่อต้านเชื้อไวรัสให้ดีขึ้น หรือหากได้รับเชื้อไวรัส จะให้เรามี ปฏิกิริยาในการต่อต้านได้ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.นพ.เกริกยศ ชลายนเดชะ ผู้อำนวยการ รพ.พญาไท1 และผู้อำนวยการสายการพัฒนาแพทย์กลุ่ม pm
แนะนำวิธีการป้องกันตัวเองดีกว่าครับ
ปัจจัยหลักๆ หลายคนคงทราบกันอยู่บ้างแล้ว นั้นก็คื กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อันนี้เป็นสูตรของการป้งกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย และก็การใส่หน้านกากอนามัย ก็จะเป็นหนทางอย่างหนึ่ง ที่ป้องตัวเองให้เชื้ออกไปสู่ภายนอก ขณะเดียวกันก็จะมีการป้องกัน จากภายนอกมาสู่เรา ผ่านการทำ
Social distancing ระยะห่างของการอยู่ร่วมกัน พูดคุยกันก็ให้ในช่วงระยะห่าง 3 เมตร หลายๆ อย่างที่เป็นมาตรการของรัฐ ก็คือ อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ หากปฏิบัติตามแบบนี้ก็ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อ ในขณะเดียวกันความแข็งแรงของร่างกาย มีความสำคัญมากๆ มีทั้งการพักผ่อน ออกกำลังกาย การทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้ ที่สารต่อต้าน อนุมูลอิสระ มีที่ช่วยทำให้เรามี ภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้นมา ต่อต้านเชื้อไวรัสให้ดีขึ้น หรือหากได้รับเชื้อไวรัส จะให้เรามี ปฏิกิริยาในการต่อต้านได้ดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ดร.นพ.เกริกยศ ชลายนเดชะ ผู้อำนวยการ รพ.พญาไท1 และผู้อำนวยการสายการพัฒนาแพทย์กลุ่ม pm
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น